ในส่วนตรงนี้ เราต้องคอยเป็นแรงผลักดันในสิ่งที่เขาทำ แต่ต้องเป็นสิ่งที่ถูกที่ดีด้วย อย่างเช่นเขากำลังหาทางที่จะซ่อมรถให้เสร็จก็ควรจะให้กำลังใจเขา และ ให้เวลากับเขา เพราะถ้าเราดูถูกหรือไม่ให้กำลังใจเขาเมื่อไหร่ ต่อไปเขาจะขาดความมั่นใจและ จะไม่ทำอะไรที่เป็นการเสี่ยงอีก ถึงแม้เรื่องนั้นจะเป็นเรื่องดี อาจจะส่งผลมาถึงการทำงานที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวด้วย ยิ่งถ้าเรามองว่าเขาทำไม่ได้ไม่สำเร็จ แต่ถ้าพอเขาสำเร็จเขาก็จะต้องหาคนที่เข้าใจเขาซึ่งอาจจะเป็นเพื่อน หรือ ใครสักคนที่จะคอยยินดีกับเขา มันเป็นเรื่องของทางด้านจิตใจ ตรงนี้ก็จะรวมไปถึงการเกรงใจซึ่งกันและกัน ในปัจจุบันการเกรงใจของแฟน หรือ คู่รักกันนั้นเริ่มต้นจากเกรงใจกันมากที่สุด แล้วค่อย ๆ ลดน้อยถอยลงไป จนไปถึง ไม่ค่อยเกรงใจ อย่าปล่อยให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้น กว่าจะรู้ตัวอีกที่ เราก็อาจจะเกรงใจเพื่อนเรามากกว่าแฟนเราด้วยซ้ำ ถ้ามาถึงจุดนี้ก็คงต้องบอกได้เลยว่า ความรักใกล้ถึงจุดอวสานแล้ว ต้องรีบแก้ไข เมื่อก่อนเราเกรงใจกันอย่างไร ก็จงยืดเมื่อก่อนเป็นที่ตั้งเอาไว้
สิ่งที่เราต้องสังเกตให้ดีคือส่วนที่เขาอาจจะขอความช่วยเหลือจากเราไม่ได้ แต่สิ่งที่เราสามารถให้เขาได้เสมอ และตลอดเวลาคือการให้กำลังใจ ถึงแม้สิ่งที่เขาทำเราอาจจะไม่มีความรู้ หรือไม่เป็นด้วยซ้ำ ก็จงให้กำลังใจกันไปก่อน ส่วนเรื่องที่สำเร็จหรือไม่ค่อยว่ากันทีหลังอย่างน้อย เขาก็รู้สักตัวเองว่า เป็นไอดอลของแฟนเราได้
การผลักดันช่วยคนที่เรารักไปให้ถึงความสำเร็จ ตรงนี้ถ้ามองย้อนกลับมาถึงตัวของเราเองเราก็ได้เช่นกัน ในเมื่อเราสามารถผลักดันแฟนเราให้สำเร็จได้ แล้วเราทำไมจะผลักดันตัวเองให้สำเร็จไม่ได้ พอเราคิดเช่นนี้ เรื่องที่เคยเป็นปัญหาก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป การผลักดันให้แฟนหรือคนที่เรารักประสพความสำเร็จ ตรงนี้ก็สามารถเป็นเครื่องมือมัดใจเขาได้ไปตลอดตรงนี้เราก็มีเสน่ห์มัดใจเขาได้
ในส่วนของการใช้ชีวิตคู่นั้น คำว่าตรงกลางสำคัญที่สุด ตราบใดที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดรับมากไป หรือให้มากไปก็จะเกิดความอ่อนล้าและ รู้สึกว่า ตนไม่ได้รับความรักอย่างพอดี ตรงนี้ต้องหาจุดตรงกลางให้เจอ เรื่องความรักความเข้าใจเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน นอกจากการเป็นแฟนกันแล้ว ก็ต้องมีอารมณ์เป็นเพื่อนกันไปด้วย เพื่อให้ความสัมผัสตรงกลางพอดีขึ้น ความเกรงใจก็เป็นส่วนสำคัญ เราต้องเกรงใจกันให้มาก เพราะถ้าตรงนี้ขาดลงเมื่อไหร่ ก็อย่างที่ได้กล่าวไว้ จุดอวสานก็ใกล้เข้ามาทุกที